"The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes."
ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

นิลุบล หรือ ผักอีฮีน

 "ผักเขียด" มีชื่อพื้นเมืองเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ทางภาคเหนือว่า ผักผักฮิ้นน้ำ ทางอีสานเรียกว่า ผักอีฮิน อีสาน,อุดรธานีเรียกว่า ผักอีฮินใหญ่ ทางภาคกลางเรียก ผักเขียด ผักขาเขียด ชลบุรีเรียก ผักฮิน ผักเป็ด อุบลราชธานีเรียก ผักฮิ้น ผักริ้น ผักริ้นน้ำ และผักฮิ้น ผักเขียดมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า โมโนคลอเรีย วาจินาลิส (Monochoria vaginalis Presl var. plantaginea solms) จัดอยู่ในวงศ์พอนทิดิเรียซีอี้(PONTEDERIACEAE)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ผักเขียดเป็นไม้น้ำขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอายุหนึ่งปี มีความสูงต้น 5-35 ซม. บางแห่งจัดเป็นวัชพืชน้ำ ที่สามารถดำรงชีวิตเป็นพืชหลายฤดูได้ ลำต้นตั้งตรงมีเหง้าอยู่ใต้ดิน และลำต้นใต้ดินสั้นมาก ส่วนที่เห็นเป็นลำต้นนั้นคือส่วนของก้านใบที่อัดรวมกันแน่น เมื่อเจริญเติบโตในน้ำจะมีไหลสั้นๆ และมีรากฝอยสีน้ำตาลแดงจำนวนมาก รากหยั่งลงดิน ใบเป็นใบเดี่ยวมีลักษณะใบเป็นรูปหัวใจออกจากโคนต้นแบบสลับกัน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนมัน ที่โคนใบมีสีเขียวอ่อน ก้านใบยาวประมาณ 10-25 ซม. มีรูปร่างค่อนข้างกลมและอวบน้ำ ภายในกลวง โคนก้านใบแผ่ออกเป็นกาบหุ้มใบที่อ่อนกว่า ด้านบนของก้านใบมีเยื่อบางๆสีขาวใบมีความยาวประมาณ 9-85 มม. ดอกเป็นดอกช่อแบบสไปร์ค ออกตรงกลางก้านใบ และมีใบประดับเขียวอ่อนคล้ายใบ ห่อหุ้มดอกในขณะที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ดอกย่อยมี 6-15 ดอก ดอกย่อยมีก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยงและกลีบดอกหลอมรวมกัน (perianth) มี 6 กลีบ กลีบดอกมีสีม่วงอมน้ำเงิน หรือสีฟ้า ปลายกลีบโค้งมน แต่ละกลีบแยกออกจากกัน ด้านหลังกลีบดอกมีสีเขียวอ่อนๆ ก้านชูเกสรตัวผู้มีสีม่วง 6 อันกลีบดอกมี 6 กลีบ ผล มีลักษณะเป็นแคปซูล ยาวประมาณ 1 ซม. ผลจะแตกเมื่อแก่โดยแตกตามยาวออกเป็น 3 ซีก มีเมล็ดสีน้ำตาลอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก

การปลูกผักเขียด เนื่องจากผักเขียดเป็นไม้น้ำ พบได้ทุกภาคของเมืองไทย ในช่วงลงนา (หรือประมาณเดือน 7 ถึง เดือน 8) พบมากในบริเวณที่มีน้ำขัง เช่น นาข้าว หนองน้ำ คลอง บึง เป็นต้น จึงปลูกผักเขียดได้โดยการใช้ต้นอ่อนปลูก

ประโยชน์ทางอาหาร ใช้ประโยชน์จากส่วนที่เป็นผักตามฤดูกาลดังนี้
ยอดอ่อนใบอ่อนและดอกใช้รับประทานเป็นผัก ยอด่ออน ใบอ่อน และดอกจะออกในช่วงหน้าฝน ชาวบ้านเล่าว่า ในช่วงลงนาจะมีผักแว่น ผักเขียดออก ผักเขียดนิยมรับประทานช่วงยังอ่อนโดยถอนทั้งต้น มักเก็บรับประทานช่วง 2—3 อาทิตย์แรกเท่านั้น หลังจากนั้นต้นจะแก่ รับประทานไม่อร่อย ชาวไทยทุกภาคนิยมรับประทานผักเขียดเป็นอาหารในรูปของผัก สำหรับวิธีรับประทานเป็นอาหาร จะรับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก หรือกับแกงรสจัดของภาคใต้ หรืออาหารรสจัดประเภท ลาบ ยำ ก้อย ส้มตำได้ นอกจากนี้ยังนำไปแกงส้ม แกงกับปลา หรือเนื้อหมูก็ได้

รสและประโยชน์ต่อสุขภาพ ผักเขียดมีรสจืด เย็น จึงเหมาะที่จะรับประทานเพื่อลดความร้อนในร่างหาย ผักเขียด 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 13 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย เส้นใย 0.8 กรัม แคลเซี่ยม 13 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 6 มิลลิกรัม เหล็ก 2 มิลลิกรัม วิตามินเอ 3000 IU วิตามินบีหนึ่ง 0.04 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.10 มิลลิกรัม ไนอาซิน 0.1 มิลลิกรัม วิตามินซี 18 มิลลิกรัม

ประโยชน์ทางยา
ใบของผักเขียด นำมาคั้นน้ำรับประทาน แก้ไอ ขับปัสสาวะ ตำพอกฝี หรือรับประทานใบสดจะมีสรรพคุณ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย

1 ความคิดเห็น: